วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Field Trip วันที่ 3

วันที่ 3 ของการเดินทาง (วันจันทร์ ที่ 6 กรกฏาคม)
ในวันนี้สถานที่ที่ไปส่วนใหญ่จะเป็นชุมชนที่มีบ้านเก่าแทบทั้งหมู่บ้าน ชื่อหมู่บ้านว่า บ้านทุ่งกว๋าว ถือเป็นการอนุรักษ์ความเป็นท้องถิ่นได้เป็นอย่างดี























ซึ่งอธิบายอะไรได้ไม่มาก นอกจาก ดูภาพแล้วให้ความรู้สึก บรรยายแทนแล้วกัน ส่วนสิ่งที่น่าประทับใจภายในหมู่บ้านแห่งนี้ คือ ความเป็นกันเองของคนในหมู่บ้าน และ ของขายต่างๆ ซึ่งราคาถูกมากๆ และท้ายหมู่บ้านมีการทำนาขั้นบันไดซึ่งมีทรรศนียภาพที่สวยงามมาก มีภูเขาเป็นฉากกั้น














เห็นชาวบ้านกำลังทำนา เห็นเพื่อนๆ ลงไปเดินเล่นและเก็บภาพของทุ่งนาแห่งนี้









ดูแล้วรู้สึก ว่า ทริปวันนี้ กับเมื่อวาน มันคนละความรู้สึกกันเลย ดูเป็นทริปที่ได้ความหลากหลายจากการเดินทาง จากนั้นหลังจากเก็บภาพเสร็จก็เดินทางต่อไปยังวัดปลายนาและได้พักกินข้าวที่นี่ แต่เนื่องจากกระผมไม่ได้นำกับข้าวมาด้วยจึงได้ถามลุงคนหนึ่งว่าแถวนี้มีร้านกับข้าวขายหรือเปล่า ลุงก็บอกว่างั้นลุงพาไปเอง จากนั้นผมและคณะที่ไม่ได้นำกับข้าวมาด้วยก็เดินตามลุงคนนี้ไป ซึ่งคุณลุงก็พาไปตามตรอกซอกซอยซึ่งซับซ้อนมาก ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าในตรอกขนาดนี้จะมีร้านอาหารขายอยู่แล้วลุงบอกว่าถ้าร้านนี้ปิดก็จะมีอีกร้านนึงซึ่งอยู่ห่างจากที่นี่ประมาณ 2 กิโลเมตร ซึ่งน่าตกใจมากที่ทั้งหมู่บ้านมีร้านกับข้าวแค่ 2 ร้าน ทำให้พอเดาได้ว่า คนในหมู่บ้าน ส่วนใหญ่น่าจะทำกับข้าวกินกันเอง และอาคารที่ขายก็ไม่ได้แพง แต่ให้เยอะมากๆ พอทานเสร็จก็กลับไปที่วัดและได้ตระเวนถ่ายรูปต่อ











และได้เดินลุยทุ่งนา ตามอาจารย์ทรงเกียร์ติ กับอาจารย์ตี๋










ซึ่งดูทุลักทุเลกันมาก แต่ก็สนุกไปอีกแบบ










จากนั้นก็เดินทางกลับ ระหว่างที่เดินทางกลับก็ได้แวะชมบ้านเก่าๆ แถวๆข้างทาง และไปหยุดที่วัดข่วงกอม




เป็นวัดที่เพิ่งสร้างใหม่ แต่มีการศึกษาศิลปพื้นเมืองมาเป็นอย่างดีและได้นำมาสร้างได้อย่างสวยงามและวิจิตรอลังการเป็นอย่างมาก ตัววัดประกอบด้วย วิหารไม้ ซึ่งแกะสลักได้ละเอียดอ่อนมากๆ และวิหารคต ที่มีฐานเป็นกำแพงหินขนาดใหญ่ โอบล้อมตัววิหาร




เหมือนกับ วัดลำปางหลวง ด้านหน้าวัดเป็นกุฏิ ซึ่งออกแบบได้เข้ากับตัววัด และมีการเชื่อมต่อของกุฎิแต่ละหลังด้วยลานเอนกประสงค์ด้านหน้ากุฎิ ดูน่าใช้งานเป็นอย่างยิ่ง เดินต่อไปยังด้านหลังกุฎิเป็นบ้านโบราณที่มีการจัดสวนและองค์ประกอบต่างๆของตัวบ้านดูหน้าสนใจตั้งแต่รั้วบ้าน และช่องเปิดต่างๆ รวมไปถึงสัดส่วนของบ้านที่ดูพอดี สวยงามจากนั้นก็เดินไปบ้านอีกหลังหนึ่ง ที่มีตัวบ้านเป็นบ้านแบบใหม่ แต่ยังคงเก็บยุ้งฉางแบบโบราณไว้ โดยได้มีการออกแบบและได้คำนึงถึงประโยชน์ใช้สอยในหลายๆด้าน สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างของบ้านหลังนี้ก็คือ มีการนำเอา แฮ้ว

ซึ่งเคยเป็นเครื่องมือที่ใช้ล่ามวัว ควาย มาประยุกต์ใช้เป็นเครื่องทุ่นแรงในการตักน้ำบ่อ ได้อย่างดีเลยทีเดียว จากนั้นก็ได้เดินทางไปยังท้ายหมู่บ้านและเก็บภาพทิวทัศน์ท้ายหมู่บ้าน ที่สวยงาม




ซึ่งกว่าจะได้ภาพนั้นมาต้องเดินข้ามโคลน ที่มีความลื่นมาก ต่อด้วยสะพานไม้ ที่มีความผุ และดูไม่น่าไว้วางใจที่จะข้ามสักเท่าไหร่

พอเก็บภาพเสร็จก็ได้กลับมายังรถและเดินทางกลับไปยังที่พักในตัวเมืองดังเดิม ................. จบการบันทึก ในวันที่ 3.............

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น