วันพุธที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

Field Trip วันที่ 5

วันที่ 5 ของการเดินทาง (วันพุธที่ 8 กรกฎาคม)
เช้าของการตระเวนเชียงใหม่ แห่งแรกที่จะไปก็คือ วัดทุ่งอ้อ อ.สันกำแพง





วัดนี้ มีลวดลายไม่มาย รวงผึ้งมีการปั้นปูน ปั้นลมปิดและมีการขมวดปิดแป เป็นศิลปล้านนาแท้ๆ ดีไซน์เน้นทางสูงดูแล้วมีพลัง เจดีย์ไม่ได้หลังวัด แต่จะอยู่เยื้องไปทางด้านข้างของวิหารเดาว่า สร้างทีหลัง แล้วสร้างเบี่ยงแล้วเว้น space ลานทรายสัมพันธ์กับวิหาร ตัวเจดีย์เป็นสีขาว




ตัดกับไม้ของวิหาร ทำให้ตัววิหารดูเด่น ปั้นลมกับ บันได้มีขนาดใหญ่ ดู over scale เป็นการออกแบบแบบพิเศษ ระเบียงมุกเน้นลวดลายมีลูกเล่นพิเศษพิศดาร



ไม่มีประตู ไม่มีวงกบ บรรยากาศเหมือนศาลา ต่อจากวัดทุ่งอ้อก็ไปกินข้าวกันที่ ตลาดหางดง จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังวัด ต้นเกว๋น




เป็นชื่อต้นไม้พื้นเมืองทางภาคเหนือชนิดหนึ่ง




ซึ่งเป็นวัดที่มีมณฑป แห่งเดียวในภาคเหนือ ภายในวัดมี ลานทรายกว้าง ตัดกับขอบหญ้าได้เนียนมากๆ ทำให้ดูตัดกันอย่างชัดเจน






เป็นวัดที่มีสัดส่วน สวยงามและเป็นเอกลักษณ์แห่งหนึ่งของภาคเหนือ




ที่ถ้าใครที่อยากจะศึกษาต้องมาที่วัดนี้ มีหน้าจั่ว ที่มีลวดลายงดงาม เป็นวัดที่ได้รับการบูรณะแล้ว 6 ครั้ง จุดเด่นของวัดนี้คือ การเล่น space ที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากวัดลำปางหลวง โดย วัดต้นเกว๋นจะเล่น space ในส่วนของวิหารมากกว่า โดยให้ความรู้สึก ขณะเข้ามาในวิหาร กับ ออกวิหารที่แตกต่างกัน โดยใช้การลดหลั่นของหลังคา และ ช่องจั่ว ที่กั้น space ตามช่องเสา ที่ดูเหมือนจะเป็นการกั้น







แต่ก็ยังมีการเชื่อมด้วยการเจาะช่องเล็กๆ ตรงจั่ว ทำให้ ดูต่อเนื่อง เป็นการเล่นแสงที่ให้ความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย




ลวดลายช่องแสงของวัดต้นเกว๋น




จากนั้นก็เดินทางต่อไปยังโรงแรม ราชมังคลา

เป็นโรงแรมที่ สร้างโดยผสมผสานความเป็นล้านนากับทางตะวันตกได้เป็นอย่างดี โดยได้หยิบเอาเอกลักษณ์ของศาสนสถานของแต่ละที่ทางภาคเหนือ เช่นวิหารคตของวัดลำปางหลวง

กับช่องหน้าต่างของวัดพระแก้วดอนเต้า เข้ามาใช้ในโรงแรมซึ่งดูแล้ว ไปด้วยได้ได้อย่างน่าสนใจ ถือเป็นการเผยแพร่ และ โฆษณาความเป็นล้านนาอีกทางหนึ่งด้วย

จากนั้นก็ได้พักรับประทานอาหารที่แถวๆ ไนท์บาร์ซ่า และได้ซื้อของฝากติดไม้ติดมือกันคนละไม่น้อยกันเลยทีเดียว จากนั้นก็กลับไปยังที่พักและเตรียมเก็บของเพื่อที่จะได้ย้ายจังหวัดไปจังหวัดสุโขทัยต่อไป

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น